การใช้มุมมองที่สอดคล้องกันตลอดการเขียนเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างวิทยานิพนธ์ที่เหนียวแน่นและมีประสิทธิภาพ มุมมองที่สอดคล้องกันหมายถึงมุมมองที่ผู้เขียนเล่าเรื่องหรือนำเสนอข้อโต้แย้ง
มุมมองทั่วไปอย่างหนึ่งที่ใช้ในการเขียนคือมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งใช้สรรพนามเช่น “ฉัน” “ฉัน” และ “เรา” มุมมองนี้อาจใช้ได้ผลกับเรียงความส่วนตัวหรืองานวิจัยที่อิงจากการสังเกตหรือประสบการณ์ของผู้เขียนเอง อย่างไรก็ตาม การทำวิทยานิพนธ์อาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่า เนื่องจากอาจทำให้งานเขียนรู้สึกเป็นส่วนตัวหรือเป็นอัตนัยมากเกินไป
อีกมุมมองหนึ่งที่ใช้ในการเขียนคือมุมมองบุคคลที่สาม ซึ่งใช้สรรพนามเช่น “เขา” “เธอ” “มัน” และ “พวกเขา” มุมมองนี้มีวัตถุประสงค์และเป็นทางการมากกว่า และมักเป็นที่นิยมในการเขียนเชิงวิชาการ รวมถึงในวิทยานิพนธ์ ช่วยให้ผู้เขียนสามารถนำเสนอข้อมูลและข้อโต้แย้งโดยไม่นำมุมมองส่วนตัวของตนเองเข้ามาปะปน
การใช้มุมมองที่สอดคล้องกันตลอดงานเขียนของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันช่วยสร้างโครงสร้างที่ชัดเจนและสอดคล้องกันสำหรับการโต้เถียง หากมุมมองเปลี่ยนไปมาภายในข้อความ อาจทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนและอาจบั่นทอนความน่าเชื่อถือของข้อโต้แย้งได้
สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาน้ำเสียงของงานเขียนเมื่อเลือกมุมมอง ตัวอย่างเช่น น้ำเสียงที่เป็นทางการและมีวัตถุประสงค์อาจเหมาะสมกว่าสำหรับวิทยานิพนธ์ ในขณะที่น้ำเสียงที่เป็นส่วนตัวและไม่เป็นทางการอาจเหมาะสมกว่าสำหรับเรียงความส่วนบุคคล
โดยรวมแล้ว การใช้มุมมองที่สอดคล้องกันตลอดการเขียนเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างวิทยานิพนธ์ที่เหนียวแน่นและมีประสิทธิภาพ การเลือกมุมมองที่เหมาะสมและรักษาไว้ตลอดทั้งข้อความ คุณสามารถสร้างโครงสร้างที่ชัดเจนและสอดคล้องกันสำหรับข้อโต้แย้งของคุณ และสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะนักเขียน