การแปลงานวิจัยเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะในการอ่าน และทักษะทางด้านภาษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากการแปลงานวิจัยจะต้องใช้การเรียบเรียงที่เข้าใจง่าย และใช้ภาษาที่เหมาะสม
ดังนั้นการที่จะแปลวิจัยจะต้องใช้เวลา และใช้สมาธิเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยให้ได้งานวิจัยที่ดีที่สุด และเหลือเวลาเพียงพอในการตรวจสอบความถูกต้องของภาษา
บทความนี้จะบอกเล่าถึง 3 เคล็ดลับที่จะช่วยให้การแปลงานวิจัยของคุณเป็นเรื่องง่าย และมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
1. แบ่งเวลาในการแปลงานวิจัยให้เหมาะสม
ก่อนการจะทำงานต่างๆ คุณต้องมีการวางแผนก่อนการเริ่มทำงานทุกครั้ง คุณจะได้รู้ว่าคุณควรเริ่มต้นทำงานจากสิ่งไหนก่อนหรือหลัง และคุณต้องมีวินัยในการทำตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้เสร็จทันเวลาที่กำหนด และท่านจะสามารถมีเวลาเหลือสำหรับการตรวจสอบ แก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับการทำงานของท่าน
การแบ่งเวลาในการแปลงานวิจัยให้เหมาะสม จะส่งผลให้การทำงานของคุณเสร็จไปตามแผนที่คุณได้กำหนดไว้ในเบื้องต้น คุณต้องรู้ว่าตนเองมีเวลาว่างในช่วงเวลาใดที่คุณจะสามารถทำการแปลวิจัยได้อย่างมีสมาธิ และไร้สิ่งรบกวน
โดยเฉพาะท่านต้องรู้ว่าท่านเหมาะสมที่จะทำการแปลงานวิจัยในช่วงกลางวัน หรือกลางคืน ที่ท่านจะมีพลังงานเต็มร้อยมากพอที่จะทำงานของท่านให้มีประสิทธิภาพ และไม่เกิดข้อผิดพลาดจนทำให้การทำงานของท่านไม่ประสบผลสำเร็จ
ดังนั้นหากท่านสามารถแบ่งเวลาในการทำงานได้อย่างเหมาะสม ก็จะส่งผลให้ท่านสามารถที่จะทำงานเสร็จได้ทันตามเวลาที่กำหนด และยังเหลือเวลามากเพียงพอที่จะตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดในการทำงานของท่านได้อีกด้วย
2. อ่านข้อมูลในการแปลวิจัยให้เข้าใจ
การแปลงานวิจัยจำเป็นต้องใช้ทักษะการอ่านเป็นอย่างมาก เพราะท่านต้องอ่านรายงานวิจัยทั้งเล่ม เพื่อนำมาแปล และเรียบเรียงใหม่ให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น หากท่านไม่มีทักษะภาษาที่ดีมากนัก ท่านจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยให้ท่านสามารถแปลได้อย่างถูกต้อง และสมบูรณ์
ก่อนเริ่มต้นการแปลงานวิจัย ท่านควรที่จะมีการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวกับงานวิจัยที่ท่านกำลังจะแปล เพื่อให้ท่านมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานวิจัยเล่มนี้ จะส่งผลให้ท่านสามารถเข้าใจเนื้อหาของงานวิจัยที่ท่านกำลังจะแปลได้ง่ายมากขึ้น เพราะท่านมีความรู้มาบ้างแล้ว
การอ่านข้อมูลให้เข้าใจก่อนเริ่มลงมือเรียบเรียงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากท่านไม่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดอย่างแม่นยำแล้ว ก็อาจจะส่งผลให้การแปลของท่านเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย และจะส่งผลให้ท่านเสียเวลาในการที่จะต้องกลับมาแก้ไขงานของท่านใหม่
ดังนั้นท่านจึงจำเป็นที่จะต้องมีสมาธิ และเวลาที่มากเพียงพอ เพื่อที่จะทำการอ่านข้อมูล และเรียบเรียงการแปลงานวิจัยของท่านให้ถูกต้องมากที่สุด
3. นำไปให้เจ้าของภาษาช่วยตรวจสอบภาษา
หลังจากที่ท่านทำการแปลงานวิจัยเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดแล้ว ท่านควรนำไปให้เจ้าของภาษาช่วยตรวจสอบ การใช้คำ ใช้สำนวนว่าถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้งานของท่านถูกต้องมรากที่สุด เนื่องจากคำบางคำที่ท่านใช้ในการแปลงานวิจัย อาจจะเป็นคำที่ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในงานวิจัย แม้จะเป็นคำที่มีความหมายเดียวกัน
เพราะภาษาแต่ละภาษา ก็จะมีคำที่ใช้ในบริบทที่แตกต่างกัน เช่น ภาษาไทยที่มีภาษาพูด ภาษาเขียน ภาษาท่าทาง เป็นต้น
ดังนั้นการให้เจ้าของภาษาช่วยตรวจสอบภาษาของท่านให้ จะทำให้ท่านรู้ว่างานวิจัยที่ท่านแปลมามีข้อผิดพลาดหรือไม่ มีส่วนใดที่ควรจะต้องปรับปรุง และแก้ไขหรือไม่ เพื่อให้การแปลงานวิจัยของท่านสมบูรณ์มากที่สุด
การแปลงานวิจัยเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ท่านจำเป็นต้องมีการฝึกฝนในทักษะด้านการอ่าน การแปล และการเรียบเรียง เพื่อที่จะส่งผลให้ท่านสามารถแปลได้อย่างถูกต้อง และใช้คำที่เข้าใจง่าย น่าอ่าน เลือกใช้คำที่ยากจนเกินไป เพราะบางครั้งผู้ที่อ่านงานวิจัยของท่านอาจจะเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไปที่สนใจในเนื้อหาที่ท่านแปลมาเท่านั้น
ดังนั้นที่กล่าวมาทั้งหมดในเบื้องต้นนั้น จะเป็นแนวทางในการแปลงานวิจัยที่จะช่วยให้ท่านสามารถทำงานได้เสร็จทันเวลาที่กำหนด และได้งานที่มีคุณภาพมากเพียงพอ หากท่านสามารถนำเนื้อหาสาระของบทความนี้ ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานของท่านได้ ก็จะส่งผลให้ท่านสามารถทำงานได้ง่ายมายิ่งขึ้น
ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)